“ไวรัสโควิด-19 ทำให้เรามาพบกัน”
สวนผักแห่งนี้มาจากการรวมตัวกันของคน 2 วัย กลุ่มผู้สูงอายุที่มีวัยมากกว่า 70 ปีผู้เป็นเจ้าของที่ดินที่ปลูกผักในวิถีไม่ใช้สารเคมีและต้องการถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาให้กับผู้เยาว์ และกลุ่มหนุ่มสาวอายุยี่สิบปลาย สามสิบต้นๆ ที่ถูกภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 บีบบังคับให้ออกจากงานและมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด คนสองวัยได้มาทำงานร่วมกันในพื้นที่แห่งนี้เพื่อสร้างอาหารที่ปลอดภัย สร้างรายได้ และสร้างอนาคตให้กับตัวเองและบ้านเกิด

สวนผักฮักร้องขุ้มบนพื้นที่ 11 ไร่ของคนสูงวัย จึงถูกขับเคลื่อนด้วยพลังของหนุ่มสาวที่นำแนวทางความรู้ทางวิทยาการมาใช้วางแผนการปลูกผักในแนวทางอินทรีย์ผสมผสานกับความรู้ภูมิปัญญาไทยของผู้สูงวัยในการปลูกผักนานาชนิดที่ไร้สารเคมี ผสมผสานกับหลักวิชาการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เส้นทางที่ไม่โดดเดี่ยวของกลุ่มคนสองวัย ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่บ้าน 3 ตำบลของหมู่บ้านร้องขุ้ม บ้านสัน และบ้านท่าโป่ง ในการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับชุมชน ความรู้จากหนุ่มสาวถูกถ่ายทอดให้เครือญาติในชุมชน พร้อมชักชวนให้ชาวบ้านมาช่วยกันทำสวนผักอินทรีย์ สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนในยุคเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพงและไม่รู้จะพึ่งใครได้ สวนผักฮักร้องขุ้มจึงเป็นสวนผักแห่งชุมชนที่มีแปลงเพาะปลูกเกษตรกรรวมกันเป็นกลุ่มก้อนมากกว่า 10 แปลงที่ช่วยกันปลูกผักให้บ้านตัวเองและคนเมืองได้มีสุขภาพดี




“เราจะช่วยกันให้สวนผักฮักร้องขุ้มเป็นสวนการเรียนรู้ของชุมชนที่ชาวบ้านได้มาเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ จากการนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้มีความเข้าใจเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เป็นสวนต้นแบบให้ชาวบ้านที่มาเรียนรู้ และนำไปเผยแพร่ในชุมชนของตัวเอง” ไมค์ (เสฏฐวุฒิ พานทอง ผู้จัดการสวนผัก) ตัวแทนของกลุ่มหนุ่มสาว บอกภาพที่เขาเห็นและตั้งใจ
“การเกษตรที่ดีต้องทำให้คนปลูกสบายใจที่จะปลูก คนกินสบายใจที่ได้กิน และได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่ร่มรื่นและสร้างความสดชื่นให้กับชีวิต อยากให้ทุกคนหันมาสนใจดูแลสุขภาพเพื่อรักษาอายุให้ยืนยาว ด้วยการใส่ใจกับการทำเกษตรที่ดูแลสิ่งแวดล้อม และบริโภคอาหารที่ดีกับสุขภาพ” คำพูดทิ้งท้ายจากลุงไพโรจน์ ตัวแทน ผู้สูงวัยที่สายตาทอดยาวไปไกลบนพื้นที่แห่งชีวิตนี้






ติดต่อ สวนผักฮักร้องขุ้มโทร. 061-0899963